วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สวัสดีค่ะ หนูจะเล่าเรื่องที่เล่ากันมานานแล้ว ที่เกี่ยวกับที่มาที่ไปของมัสยิดแห่งหนึ่งในจังหวัดนราธิวาส มัสยิดที่ว่านั้นคือมัสยิดตะโละมาเนาะ หรือเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่ามัสยิด 300 ปี เอ้ะ !! 300 ปีนี้ ถ้าคิด ดูๆแล้วก็จะประมาณสมัยอยุธยา ผู้อ่านอยากรู้กันแล้วใช่ไหมคะว่า มัสยิดแห่งนี้ใครเป็นคนที่สร้างมัสยิดแห่งนี้กันแน่ และมัสยิดแห่งนี้จะสร้างด้วยอะไรกันนะ ถ้าอยากรู้กันแล้วว่ามัสยิดแห่งนี้มีที่มาอยากไร หนูจะเล่าให้ผู้อ่านได้รู้กันค่ะ

ประวัติมัสยิดวาดี อัล ฮูเซ็นมัสยิดวาดี อัล ฮูเซ็น หรือ มัสยิด ตะโละมาเนาะ หรืออีกชื่อหนึ่งคือมัสยิด ๓๐๐ ปี เป็นมัสยิดที่เก่าแก่อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอบาเจาะเพียง   4กิโลเมตร ทางเข้ามัสยิดแห่งนี้แยกจากเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔๒ (สายเอเซีย๑๘ ) เส้นนราธิวาส - ปัตตานี ตรงทางแยก บ้านบือราแงรถยนต์สามารถเข้าถึงมัสยิด มัสยิดแห่งนี้สร้างโดย วันฮูเซ็นอัส ซานาวีซึ่งเป็นครูสอนศาสนาอพยพมาจากบ้านสะนอ จังหวัดปัตตานี ตามบัญชาของราชาซาลินดงบายู หรือ ราชาตะลูบันเมื่อครั้งอพยพหนีการรุกรานของกองทัพสยามแต่ความจริงแล้วกองทัพสยามไม่ได้ยกทัพมาตีเมืองปัตตานี  ท่านมุบีน เซฟเพิร์ด (อ้างโดยอับดุลลอฮฺ ลออแมน๒๕๔๗)ได้เขียนในหนังสือของท่านที่ชื่อ "ตามัน อินดรา" (Taman Indera) ตอนอธิบายภาพมัสยิดตะโละมาเนาะ ซึ่งลงภาพเต็มหน้าว่า สร้าง ๒๐๐ กว่าปีมาแล้ว แต่ในฟุตโน้ตบอกว่า ๓๐๐ ปี มุบีน เซฟเพิร์ด อดีตผู้สำเร็จราชการหรือข้าหลวงใหญ่อังกฤษประจำสหพันธ์รัฐมาลายา(มาเลเซียในอดีต)มีความสนใจในมัสยิด   ตะโละมาเนาะเคยมาดูมัสยิดตะโละมาเนาะหลายครั้ง ท่านได้กล่าวไว้ว่า"หากอาคารมัสยิดหลังนี้พังทลายย่อมจะนำมาซึ่งความสูญสลายของอาคารเดิมที่เต็มไปด้วยคุณค่าสูงยิ่งของสถาปัตยกรรมมลายู










ฮาญะฮฺ บีดะฮฺ ชาวบ้านตะโละมาเนาะที่มีอายุมากคนหนึ่ง อายุ ๑๐๔ ปี ใน พ.ศ. ๒๕๓๒ ซึ่งบัดนี้เสียชีวิตแล้วบอกว่าบิดาของนางซึ่งสิ้นชีวิตเมื่ออายุ ๑๕๐ ปี ขณะนั้นนางอายุ ๒๐ ปี ได้เล่าให้นางฟังว่า มัสยิดหลังนี้สร้างก่อนสมัยของ
ท่านหลายชั่วอายุคนแล้ว ย่อมแสดงว่า มัสยิด อย่างไรก็ตามปีที่สร้างมัสยิดแห่งนี้ ไม่มีบันทึกที่แน่ชัด จึงเป็นการสันนิษฐานจากตำราประวัติศาสตร์และคำบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่ และการอพยพย้ายถิ่นฐานของท่านวันฮูเซ็น อัส ซานาวี ไปอยู่ที่บ้านตะโละมาเนาะเพื่อหลบภัยสงครามนั้น หากศึกษาจากประวัติศาสตร์สงครามระหว่างสยามกับปัตตานีในเวลาไล่เลี่ยกับปีที่สร้างมัสยิดตะโละมาเนาะ (ฮ.ศ.๑๐๔๔ / พ.ศ. ๒๑๖๗ ค.ศ.๑๖๒๓) มีคลายครั้ง คือ สงครามในปีพ.ศ.๒๑๔๖๒๑๗๕๒๑๗๖ และ พ.ศ.๒๑๗๙หลังนี้มีอายุมากกว่า ๒๐๐
หนูได้ไปศึกษาในมัสยิดแห่งนี้แล้ว คนที่ดูแลมัสยิดแห่งนี้ได้เล่าว่าปัจจุบันนี้มีการเปลี่ยนแปลงส่วนที่ชำรุดของมัสยิดนี้ และผู้คนที่ได้ไปชมมัสยิดแห่งนี้ได้บริจาคเพื่อปรับปรุงซ่อมแซมมัสยิด มัสยิดแห่งนี้เป็นสถานที่ ที่ให้ลูกหลานได้ศึกษาหาความรู้และสืบทอดกันต่อไป

แหล่งอ้างอิงhttp://www.akrasart.ac.th/project_student/mano/Page2.html


2 ความคิดเห็น:

  1. คะแนนที่ได้ 25 คะแนน แต่ถ้าจะให้คะแนนเพิ่มขึ้น ควรปรับปรุงดังนี้
    1. ควรมีภาพประกอบที่หลากหลาย เพื่อให้น่าสนใจกว่านี้
    2. ส่วนนำเรื่องยังไม่น่าสนใจ และสั้นเกินไป
    3. จัดเรียง ส่วนนำ เนื้อเรื่อง สรุป ให้ชัดเจนกว่านี้
    4. ส่วนสรุปให้สัมพันธ์กับเนื้อเรื่องและให้ยาวกว่านี้
    โปรดปรับปรุงภายใน 1 สัปดาห์ ( แก้ไขเสร็จแล้ว แจ้งให้คุณครูทราบด้วยนะค่ะ )

    ตอบลบ
  2. คะแนนที่ได้ 27 คะแนน

    ตอบลบ